เปิดใจ 2 รุ่นพี่ "นิเทศฯ-วารสารฯ" กับความมันส์ของการเป็นเด็กนิเทศฯ!


           สวัสดีค่ะ พี่แป้งเชื่อว่า คณะนิเทศศาสตร์ คงเป็นคณะในดวงในของน้องๆ หลายคน แต่ก็แอบกลัวว่าถ้าเรียนไปแล้วจะตกงานหรือเปล่า จะมั่นคงมั้ย หรือฟังจากคนรอบข้างว่าเพราะเรียนคณะอื่นไม่ได้ก็เลยต้องมาเรียนนิเทศฯ แทน

           ก่อนหน้านี้พี่แป้งได้พาน้องๆ ไปรู้จักแล้วว่าคณะนิเทศศาสตร์เรียนอะไรบ้าง เปิดสอนที่ไหน มีสาขาอะไรบ้าง รวมทั้ง 20 เรื่องจริงของคณะนี้ ครั้งนี้พี่แป้งเลยจะพาน้องๆ ไปพบกับ
2 รุ่นพี่จากรั้ว นิเทศฯ จุฬาฯ และ วารสารฯ มธ. ไปคุยกับพี่เขาเลยว่าเรียนอะไร ยังไง สังคมเป็นแบบไหน พร้อมแล้วไปพบกับพี่ๆ กันเลยค่ะ
 

ขวัญล่า บุญรัตน์  เมืองสมบัติ
คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

พี่แป้ง : ก่อนอื่น แนะนำตัวเองก่อนเลยจ้า
พี่ขวัญล่า : สวัสดีค่ะ พี่ชื่อ ขวัญล่า นะคะ  ชื่อจริงคือ บุญรัตน์  เมืองสมบัติ  เพิ่งจบการศึกษาเมื่อกี้เลยค่ะ จาก คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (พี่ขวัญล่าเพิ่งทำเรื่องจบการศึกษาในวันที่สัมภาษณ์กับทาง Dek-D)

พี่แป้ง : เหตุผลอะไรที่ทำให้น้องขวัญล่าอยากเรียนคณะนิเทศศาสตร์คะ?

พี่ขวัญล่า : เราโตมากับละคร ตั้งแต่เด็กคือติดทีวีมาก ความบันเทิงสูงสุดในชีวิตคือละครเย็นกับละครหลังข่าว ต้องรีบทำการบ้านเพื่อจะได้จองที่หน้าทีวี ทีนี้พอเราติดเราก็เริ่มเล่นตาม แล้วก็อยากลงทำอะไรแบบนี้ พอโตมาหน่อยก็ได้เล่นละครให้โรงเรียน แล้ว ม.ปลาย ก็ทำละครเวทียิ่งแล้วใหญ่ เอาหมดทั้ง เขียนบท ทำฉาก เล่นเอง คิดมุกเอง สนุกเอง จับทางละครมาจนแบบเราว่าเราจะไปทางนี้แหละ

           แต่ปลายทางมันก็ดูหางานยาก ตอนนั้นเราก็เลยจะเบนเข็มไปสายภาษา เอาอาชีพเอาการงานที่มันมั่นคง แต่กลายเป็นว่าได้มาลองทำซิทคอม ทำหนังสั้น ก็กลับมาถูกจริตกับสิ่งเหล่านี้ เราเอนจอยมากๆ เราแบบคิดแล้วคิดต่อเรื่อยๆ ก็เลยกลายเป็นว่า ลองดูสักตั้ง กลัวเรื่องงานก็จริง แต่กลัวมากกว่าถ้าจะต้องอยู่กับสิ่งที่ไม่ชอบ เราว่าเรารู้ตัวแล้วครึ่งนึงว่าเราชอบอะไร อยากทำอะไร อีกครึ่งหนึ่งคือต้องยอมรับแล้วไปต่อ ไปค่ะ "นิเทศศาสตร์"

 

พี่แป้ง : ตอนสอบเข้าคณะนิเทศศาสตร์ น้องขวัญล่าสอบเข้าด้วยวิธีไหน
พี่ขวัญล่า : เราสอบรับตรงเข้ามาตั้งแต่ปี 55 (โหย ... นานมาก) เข้ามาด้วยทุนจุฬา-ชนบท และในความโชคดีที่สอบติดนี้ก็ยังได้ทุนเรียนฟรีอีกด้วย ปิติปลื้มมาก แล้วปีนี้นั้นก็คือรับตรงมาเร็วมาก รอบนั้นเรายังไม่ได้ใช้ GAT แต่ไม่ได้ปล่อยปะละเลยอะไรนะ ยังอ่านหนังสือมาสอบปกติ เอาเก็บไว้เป็นข้อสอบวัดระดับตัวเอง

พี่แป้ง : คณะนิเทศศาสตร์ แต่ละชั้นปีเรียนอะไรบ้างคะ?

พี่ขวัญล่า : คณะนิเทศศาสตร์ในชั้นปีที่หนึ่งและชั้นปีที่สองก็จะเรียนวิชาพื้นฐานก่อนที่จะเข้าภาคในชั้นปีที่สาม วิชาพื้นฐานก็ได้แก่ พวกความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับนิเทศศาสตร์ เรียนพื้นฐานของทั้ง 7 ภาควิชาไม่ว่าจะเป็นวิทยุโทรทัศน์วารสารภาพยนตร์และภาพนิ่งและอื่นๆ รวมถึงเรียนรู้เกี่ยวกับศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับคณะเรา เช่น การเมืองและการปกครอง เศรษฐศาสตร์และบัญชี วิชาภาษาอังกฤษเบื้องต้น วิชาตรรกศาสตร์ และวิชาศึกษาทั่วไปของคณะอื่นๆ ก็จะมีวิชาพื้นฐานอย่างหลากหลายจากคณะต่างๆ ในมหาลัยมาให้เราเลือกเรียน เรียกว่า แน่นค่ะ

พี่แป้ง : สังคมของคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ ในมุมมองของน้องขวัญเป็นแบบไหนคะ?

พี่ขวัญล่า : เราเป็นคณะที่เลยคำว่าอบอุ่นมาแล้วค่ะ พวกเราร้อนลุ่มค่ะ เราจะมีไฟในตัวกันเกือบทุกคน ขวัญชอบที่เวลาเดินเข้าไปในคณะแล้วเราจะรู้จักกันหมด แบบพลังของกิจกรรมคณะมันทำให้เรารู้จักกัน เราสนิทสนมกัน แล้วก็มีคนหลากหลายมากๆในคณะเรา ตั้งแต่เนิ้ดมากๆ ติ่งมากๆ สวยมากๆ โป๊มากๆ แต่พวกเราคือเพื่อนกัน

           ช่วงเวลาที่เราชอบที่สุดคงเป็นช่วงละครคณะอ่ะ เราได้รู้จักกับน้องๆปี 1 มากขึ้น สนิทกับปีสี่ด้วยกันมากขึ้น บางคนได้คุยกันตอนทำงานประมาณสามนาที ทุกวันนี้ยังทักทายกันเสมอ เราได้เห็นความตั้งใจของทั้งฝ่ายฉาก แสง สี เสียง และงานเบื้องหลังต่างๆที่นิสิตทำขึ้นมาเองทั้งหมด และอยู่ร่วมกับกระบวนการการแสดงตั้งแต่ต้นจนจบ แบบเรารู้สึกทึ่งถึงไฟของคนในคณะเราอ่ะ ระหว่างทางมันมีเรื่องราวให้กระทบกระทั่งกันบ้าง แต่วันนี้ที่ละครจบ ก็มีความคิดถึงให้กับความทรงจำดีๆค่ะ

 

พี่แป้ง : วิชาไหนที่น้องขวัญหล้าชอบมากที่สุดตั้งแต่เรียนมา เพราะอะไรคะ?
พี่ขวัญล่า : ชอบวิชา Music Perform ของครูปอ วิชาของภาควิชาสื่อสารการแสดงค่ะ เพราะขวัญเรียน Film โท PA ก็จะวนๆ ในคณะเยอะมาก ด้วยเหตุที่ชอบคงเป็นเพราะว่าได้ร้องเพลงบ่อยมากค่ะ ได้รู้วิธีการใช้เสียงให้ถูกต้อง วิธีการวอร์มเสียง ได้ลองโปรดิ้วเพลงเองตอนส่งซีนด้วยว่าอยากได้เครื่องดนตรีไหน ท่อนไหน ท่อนนี้อยากร้องยังไง โอยชอบมาก คือเราไม่เคยแตะเข้ามาในวงวารนี้เลย เป็นคนที่กลัวการร้องเพลงมาก เพราะแบบเคยร้องเพี้ยนแล้วมันไม่มั่นใจ แล้วพอได้มาเรียน ได้มาทำ มันทำให้เราแบบหลงรักละครมิวสิคัลเลยค่ะ เหมือนฝันมากๆ จากวิชานี้ก็ได้ทำละครไฟนอลด้วยกันยิ่งทำให้สนิทกับเพื่อนๆในคลาสแล้วยังได้รู้ตัวเองอีกว่า เออ เราชอบแสดงละครนะ เราจะหนีทำไม เอ้า ฮึบ เห็นมั้ยว่าบางทีคนเราก็เจอตัวเองตอนได้ลองทำอะไรไปเรื่อยๆ นี่แหละ

พี่แป้ง : เห็นว่าแสดงละครเวทีด้วย บทที่น้องขวัญล่าได้เล่นเป็นบทแบบไหนคะ และบทบาทไหนที่น้องขวัญหล้าชอบมากที่สุด?

พี่ขวัญล่า : ชอบทุกบทค่ะ มีงานก็เรียกได้ (หลอกๆ) ฮ่าๆ จริงๆ เราชอบแนวดราม่านะ เพราะเราเป็นคนรู้สึกเยอะ รู้สึกมาก รู้สึกไปหมด แต่พอได้ลองเล่นคอมเมดี้ตอนละครคณะปีนี้ก็รู้สึกถูกชะตากับความคอมเมดี้เหมือนกัน แต่มันเล่นยากนะ ไม่ใช่ทุกคนจะเล่นบทเดียวกันแล้วทำให้คนดูรู้สึกได้ แบบมันต้องอาศัยจังหวะ อาศัยการฝึกซ้อม และในการแสดงจริงมันต้องมีเรื่องของไหวพริบด้วยที่จะทำให้บทเดิมๆ ที่คนเดิมๆ เคยดูแล้ว ไม่รู้สึกว่ามันซ้ำ โอ้โห้ มาไกลขนาดนี้เลย กลับไปๆๆ ถ้าบทบาทที่ชอบที่สุดตอนนี้ก็คงเป็นบทครูติ้กค่ะ ครูสาวหลายคาแรกเตอร์แห่งโรงเรียนสายลับ เป็นตัวละครที่มีชีวิตชีวามากๆ และพอนึกถึงครูติ้ก ก็จะนึกถึง เด็กๆ ในโรงเรียนสายลับที่เวิคชอปกันมาเนิ่นนานเกือบหกเดือนจนเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันไปแล้ว โอ๊ย คิดถึงชะมัด
 

พี่แป้ง : อยากรู้ว่า นิเทศศาสตร์ ภาคฟิล์ม มีเรื่องเล่าอะไรที่น้องๆ ควรรู้บ้างหรือเปล่า?
พี่ขวัญล่า : ถ้าหนูไม่มีแฟนตอนเรียนมหา'ลัย ไม่เป็นไร เราคือเพื่อนกัน เพียงเท่านี้แหละค่ะที่จะบอก เข้าเรื่องเลยจริงๆ ละกัน ถ้าอยากรู้ว่าคณะนิเทศศาสตร์ภาคฟิล์มเขามีของดีอะไร ขอเชิญร่วมงาน "กางจอ ๒๔ งานประจำปี ประเพณีประจำจังหวัด" เป็นนิทรรศการแสดงผลงานนิสิต ภาควิชาการภาพยนตร์และภาพนิ่ง คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประจำปี 2560 ตัดริบบิ้นเปิดงาน เสาร์อาทิตย์ที่ 29-30 กรกฏาคมนี้ ที่หอศิลป์กรุงเทพ จะได้รู้ว่าภาคฟิล์มมีอะไรบ้าง
 

พี่แป้ง : การรับน้องของคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ เป็นอย่างไรบ้างคะ เล่าให้น้องๆ ฟังหน่อย
พี่ขวัญล่า : แซ่บค่ะ ... เราจะรับคุณจนกว่าคุณจะร้องขอชีวิต ไม่ใช่โหดหรืออะไร คณะเราเป็นคณะที่มีกิจกรรมเยอะมาก และ 1 ใน 3 ของกิจกรรมทั้งมวลคือกิจกรรมรับน้องนี่แหละ เรามี First Date แล้วเราก็มีปิดปิ้ว ซึ่งสองสิ่งนี้ไม่ควรพลาดอ่ะ แบบได้รู้จักคนมากมายมหาศาลจากงานคณะจริงๆ พอเข้ามาเรียนเราก็มีรับน้องของแต่ละชั้นปี โหยคุณพี่ขา พูดสี่ปียังไม่จบเลยค่ะ ถ้าคุณเป็นเด็กกิจกรรม คุณมาถูกทางแล้วค่ะ แล้วถ้าคุณไม่ใช่ ไม่เป็นไร มาลอง

พี่แป้ง : สุดท้ายนี้อยากให้ขวัญฝากกำลังใจถึงน้องๆ ที่อยากเรียนคณะนิเทศศาสตร์ค่ะ

พี่ขวัญล่า : ตั้งใจเว้ยแก เอาจริงๆ มันยากอยู่แล้วการจะอ่านหนังสือ เราไม่เคยอ่านหนังสือเป็นวันอ่ะ บอกตามตรง เราสมาธิสั้น หนังสือเดียวที่อ่านได้ทั้งวันคือนิยาย อันนี้ไม่ได้จะสอนให้กบฎ แต่ถ้ามันไม่สนุก มันฝืน อย่า อย่าทำให้สมองเครียด อ่านวันละ 2-3 ชั่วโมงก็พอ  กินข้าวเสร็จ เพลินๆ บทหนึ่ง บ่ายๆ บทหนึ่ง อยากอ่านเมื่อไหร่อ่าน จัดเวลาดีๆ เริ่มจากการอ่านคนเดียว อ่านแล้วคุยกับตัวเอง เหมือนแบบสอนตัวเอง อ่านแล้วลงปิดหนังสือแล้วลองอธิบายให้ตัวเองฟัง เสียงดังๆ ด้วยนะ จากนั้นก็ออกไปติวกับเพื่อน เอาที่เราเข้าใจไปสอนเพื่อน สอนต่อเนี่ยแหละมันส์

           อีกอย่างหนึ่งเราเป็นคนชอบเชื่อมโยง ก็โยงเข้ากับอะไรขำๆ มันก็จะจำง่ายขึ้น แล้วควรแบ่งเวลาไปออกกำลังกาย รักษาสุขภาพ เรียนมหาลัยถ้าแบ่งเวลาไม่ดี สุขภาพก็ตามนั้นเลย การจะลุกขึ้นมาฟิตในช่วงเวลาสั้นๆ มันยากนะ มันจะเหนื่อยมากๆ  ดังนั้นทำให้มันสม่ำเสมอ หาตัวเองให้เจอไวๆ ด้วยการลองทำกิจกรรม ให้เรารู้ว่าเราชอบหรือไม่ชอบอะไร และเราสามารถอยู่กับมันได้มั้ย คนจบนิเทศทำงานตรงสายก็มี ไม่ตรงสายก็มีนะ อ่าว นี่แนะแนวใช่มั้ย ฮ่าๆ แบบถ้าแกชอบคณะเรา ไปลองดูรายวิชาที่แกจะได้เรียนของทั้งสี่ปีก่อนก็ได้ แล้วถ้าอยากมาเรียนรู้จริงๆ ก็มา พวกเรายินดีตอนรับแกอยู่แล้ว

 

โบนัส กิตติพัฒน์ วงษ์ล้วนงาม
คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

พี่แป้ง : ก่อนอื่น แนะนำตัวเองก่อนเลยจ้า
พี่โบนัส : สวัสดีครับ ชื่อ โบนัส นะครับ กิตติพัฒน์ วงษ์ล้วนงาม เรียนอยู่ปี 2 วิชาเอกโฆษณา คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลซน เอ้ย มวลชน ม.ธรรมศาสตร์ ครับ

พี่แป้ง : เหตุผลอะไรที่ทำให้น้องโบนัสอยากเรียนคณะวารสารศาสตร์ฯคะ?

พี่โบนัส : จริงๆ ก็ชอบแนวนิเทศ แนวสื่อมาตั้งแต่ ม.ปลาย แล้ว แล้วตอนเป็นกัปตันก็เลือกคณะนิเทศฯ จุฬา เป็นคณะภารกิจ แต่ดันเปลี่ยนใจเอาตอนสุดท้าย แล้วก็ต้องกลับมาเรียนในคณะสายนี้อยู่ดีเพราะความชอบ จริงๆ แล้วอาจจะเป็นเพราะเราเป็นคนชอบพูด ชอบสื่อสารอยู่แล้ว เลยอยากเรียนคณะสายนี้ครับ

พี่แป้ง : ตอนสอบเข้าคณะวารสารศาสตรฯ น้องโบนัสเตรียมสอบ GAT อย่างไรบ้าง

พี่โบนัส : หลังจากที่ซิ่วมาแล้วครั้งนึง ก็ได้ไปเรียนเอกภาษาอังกฤษที่คณะครุศาสตร์ เหลือแต่ภาษาอังกฤษอย่างเดียวที่น่าจะทำคะแนนให้ได้ ก็เลยอ่านแล้วก็ทำโจทย์บ่อยๆ จริงๆอยากบอกน้องๆ ว่า เจออะไรบ่อยๆ มันก็จะดูง่ายขึ้นสำหรับเราเอง โดยส่วนตัวไม่ได้เป็นคนเก่งอังกฤษตั้งแต่แรก แต่ไม่อายที่จะพูดภาษาอังกฤษ ถึงแม้ว่าสำเนียจะไม่ดีก็ตาม แค่สามารถสื่อสารได้ แล้วพอเรามาอยู่กับแกรมม่าบ่อยๆ มันก็จะเห็นความผิดพลาดของตัวเองตอนที่เราพูด แล้วมันเป็นเหมือน Trial and error ที่จะสอนเราให้จำในสิ่งที่ถูกไปเอง ฝึกบ่อยๆ เราจะทำได้ครับ

พี่แป้ง : คณะวารสารศาสตร์ฯ มธ. แต่ละชั้นปีเรียนอะไรบ้างคะ?

พี่โบนัส : วารสารฯ ค่อนข้าง Free ในการลงวิชาเรียน แค่เราดูว่าตัวที่จะลงต้องเก็บวิชาอะไรก่อนหรือเปล่า ถ้าไม่ต้องก็ลงได้เลย

           ปี 1 เราก็จะเจอกับวิชาพื้นฐานของมหาวิทยาลัยถึง 5 ตัว ทำให้ลงวิชาอื่นได้แค่ 2 ตัวเท่านั้น ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ JC200 วิชาความรู้เบื้องต้นทางการสื่อสาร นั่นเอง วิชานี้คือพื้นฐานของทั้งหมดที่เราจะเรียนต่อๆไปในคณะเลย พอมาเทอม 2 ก็จะเลือกตามที่ต้องการเลยว่าจะเรียนอะไร ส่วนใหญ่จะเรียนวิชาพื้นฐานของแต่ละเอก

           ปี 2 เทอม 1 เป็นวิชาบังคับคณะ เก็บวิชาพื้นฐานเอก หรือวิชาบังคับเลือกต่างๆ ของมหาวิทยาลัย ใครรู้แล้วว่าจะเรียนเอกอะไรก็อาจจะลงวิชาของเอกนั้นเลยก็ได้ ปี 2 เทอม 2 เป็นการแยกเอกอย่างจริงจัง ส่วนใหญ่ก็จะเก็บวิชาบังคับในเอกของตัวเอง หรือวิชาในสาขาวิชาที่เราจะเก็บเป็นวิชาโทก็ได้

           ปี 3 และ ปี 4 ก็จะเก็บวิชาเอก และวิชาบังคับตัวอื่นๆ ของคณะและมหาวิทยาลัยให้ครบ ก่อนจะลงวิชาฝึกงาน หรือวิชาการศึกษาเฉพาะเรื่อง (Thesis) ในเทอมสุดท้าย

 

พี่แป้ง : สังคมของคณะวารสารศาสตร์ฯ มธ. ในมุมมองของน้องโบนัสเป็นแบบไหนคะ?
พี่โบนัส : จริงๆ คณะวารสารฯเป็นคณะที่อิสระที่สุดในมหาวิทยาลัยที่อิสระที่สุดของประเทศเลยก็ว่าได้ ไม่มีห้องเชียร์ ไม่มีว๊าก ไม่มีโต๊ะ รวมกันด้วยกิจกรรมต่างๆ ของคณะ แต่ละคนก็จะมีความสนุกสนานอยู่ในตัวอยู่แล้ว กิจกรรมก็เป็นเหมือนการปล่อยของของแต่ละคนเลย ก็จะมีความแรง ความเบาต่างกันไป โดยรวมก็อบอุ่นดีครับ

พี่แป้ง : วิชาไหนที่น้องโบนัสชอบมากที่สุดตั้งแต่เรียนมา เพราะอะไร?

พี่โบนัส : JC361 หรือวิชา Media Planning ครับ จะเรียนเกี่ยวกับรูปแบบของสื่อทั้งหมดใช้ในงานโฆษณา ประเมินจากวัตถุประสงค์ งบประมาณ ฯลฯ และสิ่งที่สนุกที่สุดของวิชานี้คือการทำ Final Project ที่จะมีลูกค้าจริงๆ มาบรีฟเรา และให้เราเลือกช่องทางของสื่อ วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย วิเคราะห์คู่แข่ง ให้ตอบสนอวความต้องการของลูกค้า งานที่เราทำไปก็สามารถนำไปใช้ได้จริงได้ด้วยครับ

พี่แป้ง : อยากให้เล่าประสบการณ์การซิ่วของน้องโบนัส เคยซิ่วจากที่ไหน เพราะอะไร และมีอะไรที่อยากฝากน้องๆ ที่คิดจะซิ่วบ้างคะ?

พี่โบนัส : โบซิ่ว 2 ครั้งครับ จากวิทยาฯ จุฬาฯ ไปครุฯ จุฬาฯ เพราะเรียนไม่ไหวอันนี้ยอมรับเลย ถึงแม้จะชอบชีวะมากขนาดไหนแต่ก็ทนกับ เคมี ฟิสิกส์ และแคลคูลัสไม่ได้จริงๆ  ตอนที่ซิ่วไปครุฯ จุฬา เป็นเอกคู่อังกฤษ - เทคโนโลยีการศึกษา ชอบนะสนุกดี เรียนภาษาอังกฤษ คู่ไปกับวิชาที่คล้ายๆ วิชาทางนิเทศฯ ยิ่งทำให้รู้ว่าอยากเรียนแนวนิเทศฯ มากขึ้น เลยตัดสินใจยื่นคะแนนไปวารสารฯ มธ. แล้วก็ติดและก็เรียนมาจนถึงตอนนี้  

           หลายๆ คนอาจจะบอกว่าซิ่วทำไมบ่อยๆ ก็อยากถามกลับไปคำนึงว่า จริงๆ แล้วคุณชอบในสิ่งที่คุณเรียนอยู่หรอ แล้วคิดว่าจะเอาความรู้จากสิ่งที่ทนเรียนไปใช้ได้จริงหรอ? ถ้าคุณตอบว่าใช่ทั้งสองคำถามก็ถือว่าโชคดีที่ไม่ต้องค้นหาตัวเองหลายๆ ปี แต่ถ้าไม่ คุณก็ไม่ต่างกับคนทั่วไปที่ทิ้งความฝัน ทิ้งความชอบตัวเองไป และอยู่ในที่ที่คุณทนอยู่     

           สำหรับน้องๆ ที่หาความชอบตัวเองอยู่ พี่อยากให้น้องหามันให้เจอตั้งแต่ ม.ปลาย ก่อน Admission จะได้ไม่ต้องเสียเวลาหลายรอบ การที่อายุที่มากขึ้นมันมีผลกระทบต่อชีวิตเรานะ แต่ละวันแต่ละเดือนแต่ละปีมีค่า ตอนจะซิ่วก็คิดว่าช้าไปปีเดียว 2 ปี ตอนเห็นเพื่อนจะจบกันมันเคว้งคว้างมาก แต่ก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เลือกในสิ่งที่ตัวเองจะอยู่กับมันไปทั้งชีวิตนะครับ

พี่แป้ง : การรับน้องของคณะวารสารศาสตร์ฯ มธ. เป็นอย่างไรบ้างคะ เล่าให้น้องๆ ฟังหน่อย

พี่โบนัส : รับน้องคณะวารสารฯ มีกิจกรรมเยอะมาก ทั้งสันทนาการ เชียร์โต้ ทัวร์รังสิต ทริปรับน้อง ซึ่งรุ่นพี่ก็จะมากันเยอะมาก เป็นคณะที่รุ่นพี่มากันเยอะจริงๆ ความสนุกมันก็อยู่ที่น้องจะปลดปล่อยตัวเองให้สนุกไปกับกิจกรรมมากน้อยแค่ไหนครับ

พี่แป้ง : สุดท้ายนี้อยากให้น้องโบนัสฝากกำลังใจถึงน้องๆ ที่อยากเรียนคณะวารสารศาสตร์ค่ะ

พี่โบนัส : ถ้าชอบแล้วก็ต้องทำให้เต็มที่ให้ได้มาเรียน เรียนในสิ่งที่ชอบเราจะได้อยู่กับมันและเอาไปใช้ได้จริง ถึงจะเหนื่อยจะหนัก แต่มันจะมีแรงสู้จากความชอบมาเอง สู้ๆ นะครับน้องๆ ของให้เราได้เจอกันในวงการสื่อสารมวลชน :)

           การสอบเข้ามหาวิทยาลัยรุ่นต่อไปก็คือรุ่น TCAS 61 ซึ่งระบบนี้จะดีมากถ้าน้องๆ รู้จักตัวเองก่อน จะได้รู้ว่าควรเดินไปทางไหน ถ้าใครยังไม่รู้ว่าจะเรียนคณะอะไรก็มาเจอกันได้ที่
"คณะในฝัน" พบกับเป็นประจำทุกวันพฤหัสฯ ในเดือนหน้าจะเป็นคณะอะไรนั้น รอติดตามได้เลยค่ะ :)

 
พี่แป้ง
พี่แป้ง - Columnist นักข่าวสายรับตรง พร้อมเสิร์ฟข่าวสอบเข้าทุกมหา'ลัย เติมพลังได้จากชาเย็นหวานน้อย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น